ข้อมูลเบื้องต้นของวุฒิศักดิ๋คลีนิก
สำหรับ ปี 55 วุฒิศักดิ์คลีนิกรายงานต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าสรุปได้ดังนี้
สินทรัพย์ 2,866.484 ล้านบาท
หนี้สิน 2,297.103 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น 569.381 ล้านบาท
รายได้รวม 2,884.879 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 594.360 ล้านบาท
P/BV ของบริษัทกลุ่มโรงพยาบาล
- BGH = 7.31, VIBHA = 4.87, SKR = 6.10, TNH = 4.50, BH= 10.36, VIH = 6.14
ถ้า EFORL ต้องการควบรวมกิจการวุฒิศักดิ์คลินิก โดยใช้ P/BV อ้างอิงตลาด สมมุติว่าใช้ P/BV เท่ากับ 4.50 เท่า ซึงเป็นค่าที่น้อยที่สุดแล้ว คงต้องใช้เงินหรือเทียบเท่าไม่น้อยกว่า 569.381*4.50 = 2,562 ล้านบาท หรือ ถ้าใช้เกณฑ์ PER โดยค่า PER ของกลุ่มโรงพยาบาลทุกแห่งไม่น้อยกว่า 30 เท่า ดังนั้นเงินที่ต้องจ่ายเพื่อวุฒิศักดิ๋อาจสูงถึง 594.360*30 = 17,831 ล้านบาทเลยทีเดียว
ดังนั้นถ้าจะควบรวมกันจริงๆ EFORL คงต้องมีการเพิ่มทุน แล้วทำการแลกหุ้น เพราะแม้ว่า EFORL จะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 16,560 ล้านบาท ที่ราคาหุ้น 1.80 บาทก็ตาม แต่ไม่มีเงินขนาดนั้น
และถ้า วุฒิศักดิ์ต้องการเข้าตลาด ก็สามารถเข้าเองได้โดยไม่ต้องผ่าน EFORL
----------------------------------------------------------------------------
'อีฟอร์แอลฯ'ปิดดีลซื้อ'วุฒิศักดิ์คลินิก' 4.5 พันล.
วันพุธที่ 17 กันยายน 2014 เวลา 05:49 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
อี ฟอร์ แอล เอมมาตามนัด ปิดแล้วดีลเทกโอเวอร์"วุฒิศักดิ์คลินิค"ที่ 3.5 พันล้านบาท พร้อมดึงพันธมิตรร่วมถือหุ้น มั่นใจศักยภาพ เป็นธุรกิจที่โดดเด่นมีสาขาครอบคลุม 120 สาขา แถมมีแฟรนไชส์ในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมผงาดรับเปิดเออีซี ดันรายได้ธุรกิจความงามโตควบคู่ธุรกิจหลักขายเครื่องมือแพทย์
นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บร ิหาร บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน)(EFORL) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์ กรุ๊ป จํากัด (WCIG) ซึ่งประกอบธุรกิจให้คําปรึกษาและตรวจรักษาปัญหาด้านผิวพรรณและลดกระชับสัดส่วน ในสัดส่วน 100% ผ่านบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ด้วยมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้นประมาณ 3,5 พันล้านบาท
ทั้งนี้บริษัท อี ฟอร์ แอลฯ จะเข้าถือหุ้นในบริษัทย่อยสัดส่วน 60 % ส่วนที่เหลืออีก 40 %จะเป็นการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายเดิม ได้แก่ นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ นายพลภัทร จันทร์วิเมลือง และนายวุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช โดยถือหุ้นบริษัทย่อยในสัดส่วน 25 % และอีก 15 %ถือหุ้นโดยกองทุนซึ่งจัดตั้งและบริหารโดย Solaris Asset Management Company Limited
สำหรับบริษัทย่อยที่จะไปลงทุนซื้อบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก ฯนั้น จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วรวมส่วนเกินทุนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2.5 พันล้านบาท ซึ่งบริษัท อี ฟอร์ แอลฯถือหุ้นในสัดส่วน 60 %ต้องใช้เงินลงทุนจำนวน 1.5 พันล้านบาท โดยเงินส่วนนี้บริษัทอี ฟอร์ แอลฯ จะกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศ ไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุน และ/หรือ ดำเนินการอื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นบริษัท อี ฟอร์ แอลฯในปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทอี ฟอร์ แอลฯ เป็นบริษัทที่ไม่มีภาระหนี้สิน และอยู่ในข่ายที่สถาบันการเงินให้การสนับสนุนได้
"ถือเป็นนวัตกรรมการซื้อขายกิจการรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยสำหรับตลาดทุนไทย ที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบ Dilution Effect ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น"
นายธีรวุทธิ์ กล่าวและว่า การซื้อกิจการครั้งนี้ยังเป็นผลดีทำให้บริษัท อี ฟอร์ แอลฯได้ธุรกิจเข้ามาเพิ่มเป็นการสร้างการเติบโต สร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัท ทั้งในด้านทรัพย์สินและรายได้ตลอดจนการรุกเข้าสู่ธุรกิจที่มีการเติบโตสูง โดยบริษัทจะได้รับประโยชน์จากการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและส่งเสริมกัน ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ผู้ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปจนถึงผู้เข้ารับบริการเสริมความงาม
ทั้งนี้บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก ฯประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทคลินิกเวชกรรมไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน โดยเน้นให้บริการคําปรึกษาและตรวจรักษาปัญหาด้านผิวพรรณและลดกระชับสัดส่วนภายใต้ชื่อ "วุฒิศักดิ์คลินิก" มีสาขารวม 120 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการในลักษณะแฟรนไชส์ ในสปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมาร์ รวม 11 สาขา อีกทั้งเป็นการรองรับเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)
อี ฟอร์ แอล เอมมาตามนัด ปิดแล้วดีลเทกโอเวอร์"วุฒิศักดิ์คลินิค"ที่ 3.5 พันล้านบาท พร้อมดึงพันธมิตรร่วมถือหุ้น มั่นใจศักยภาพ เป็นธุรกิจที่โดดเด่นมีสาขาครอบคลุม 120 สาขา แถมมีแฟรนไชส์ในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมผงาดรับเปิดเออีซี ดันรายได้ธุรกิจความงามโตควบคู่ธุรกิจหลักขายเครื่องมือแพทย์
นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บร ิหาร บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน)(EFORL) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์ กรุ๊ป จํากัด (WCIG) ซึ่งประกอบธุรกิจให้คําปรึกษาและตรวจรักษาปัญหาด้านผิวพรรณและลดกระชับสัดส่วน ในสัดส่วน 100% ผ่านบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ด้วยมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้นประมาณ 3,5 พันล้านบาท
ทั้งนี้บริษัท อี ฟอร์ แอลฯ จะเข้าถือหุ้นในบริษัทย่อยสัดส่วน 60 % ส่วนที่เหลืออีก 40 %จะเป็นการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายเดิม ได้แก่ นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ นายพลภัทร จันทร์วิเมลือง และนายวุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช โดยถือหุ้นบริษัทย่อยในสัดส่วน 25 % และอีก 15 %ถือหุ้นโดยกองทุนซึ่งจัดตั้งและบริหารโดย Solaris Asset Management Company Limited
สำหรับบริษัทย่อยที่จะไปลงทุนซื้อบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก ฯนั้น จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วรวมส่วนเกินทุนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2.5 พันล้านบาท ซึ่งบริษัท อี ฟอร์ แอลฯถือหุ้นในสัดส่วน 60 %ต้องใช้เงินลงทุนจำนวน 1.5 พันล้านบาท โดยเงินส่วนนี้บริษัทอี ฟอร์ แอลฯ จะกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศ ไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุน และ/หรือ ดำเนินการอื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นบริษัท อี ฟอร์ แอลฯในปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทอี ฟอร์ แอลฯ เป็นบริษัทที่ไม่มีภาระหนี้สิน และอยู่ในข่ายที่สถาบันการเงินให้การสนับสนุนได้
"ถือเป็นนวัตกรรมการซื้อขายกิจการรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยสำหรับตลาดทุนไทย ที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบ Dilution Effect ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น"
นายธีรวุทธิ์ กล่าวและว่า การซื้อกิจการครั้งนี้ยังเป็นผลดีทำให้บริษัท อี ฟอร์ แอลฯได้ธุรกิจเข้ามาเพิ่มเป็นการสร้างการเติบโต สร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัท ทั้งในด้านทรัพย์สินและรายได้ตลอดจนการรุกเข้าสู่ธุรกิจที่มีการเติบโตสูง โดยบริษัทจะได้รับประโยชน์จากการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและส่งเสริมกัน ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ผู้ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปจนถึงผู้เข้ารับบริการเสริมความงาม
ทั้งนี้บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก ฯประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทคลินิกเวชกรรมไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน โดยเน้นให้บริการคําปรึกษาและตรวจรักษาปัญหาด้านผิวพรรณและลดกระชับสัดส่วนภายใต้ชื่อ "วุฒิศักดิ์คลินิก" มีสาขารวม 120 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการในลักษณะแฟรนไชส์ ในสปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมาร์ รวม 11 สาขา อีกทั้งเป็นการรองรับเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)