วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2559

รถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ใหม

ของใหม่อีกอย่าง ที่ผมกำลังคิดว่า น่าใช้หรือเปล่า คือรถยนต์ไฟฟ้า สมมุติว่า ราคาคันละ 1.6 ล้านละกัน (ซึ่งปัจจุบัน ราคารถยนต์ไฟฟ้า ตกราวคันละ 8 ล้านบาท) มีคำถามว่า ต้องเจออะไรบ้าง เช่น ที่บ้านต้องเตรียมระบบไฟฟ้าเฉพาะสำหรับชาร์ตหรือไม่  แล้วจะเอารถไปต่างจังหวัดระยะสัก 700 กิโลเมตร ทำไง ฯลฯ ต้นทุนค่าชาร์ตที่ปั๊มเท่าไหร่ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามีขนาดราว 70 KWh การที่จะชาร์ตไฟให้เต็มในเวลากลางคืนแล้วนำรถไปใช้ในเวลากลางวัน วิ่งระยะไม่เกิน 270 กม. ที่ถนนที่รถไม่ติดหนัก น่าจะใช้กระแสไฟฟ้าราว 45 แอมแปร์ ซึ่งจะชาร์ตแบตเตอรี่เต็มในเวลาราว 8 ชั่วโมง นั่นก็หมายถึงที่บ้านต้องมีระบบไฟฟ้าออกแบบมาเพื่อรถนี้ด้วย

ส่วนที่สถานีบริการสำหรับชาร์ตไฟฟ้า ถามว่า มีต้นทุนเท่าไหร่
- ค่าพื้นที่ สมมุติว่า ตร.วาละ 20,000 บาทหรือ ตร.ม.ละ 5,000 บาท ที่จอดรถสำหรับชาร์ตแบตฯรถน่าจะใช้พื้นที่ราว 2.50 x 5.50 ตร.ม. เท่ากับ 13.75 ตร.ม. ต้นทุนค่าพื้นที่ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายคงที่จึงเท่ากับ 68,750 บาท
- ค่าอุปกรณ์ ตกราว 130,000 บาทต่อกิโลวัตต์ ถ้าหากต้องการชาร์ตเร็วน่าจะต้องใช้เครื่องชาร์ตที่มีขนาดราว 60 กิโลวัตต์ เพื่อที่จะชาร์ตให้เต็มในเวลา 75 นาที ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประมาณ 7.8 ล้านบาท
- ค่าพนักงาน ตกวันละ 300 บาท หรือ ปีละ 109,500 บาท
- ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ราว 520,000 บาทต่อปี
- ต้นทุนค่าไฟฟ้า หน่วยละ 4.50 บาท
- สมมุติต้องการคืนทุนในเวลา 2 ปี โดยเฉลี่ยมีรถมาชาร์ตวันละ 10 คัน ซึ่งก็คือมีการใช้ที่ชาร์ตราว 12.5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งหนึ่งปีก็จะมีรถมาใช้บริการ 3,650 คัน ต้นทุนก็ราว 1629 บาทต่อการชาร์ตแบตฯหนึ่งคัน
- สมมุติต้องการคืนทุนในเวลา 4 ปี ต้นทุนก็ตกราว 1090 บาทต่อการชาร์ตหนึ่งครั้ง

หากต้องการมีกำไร 25% ในเวลา 4 ปีนี้ ราคาการชาร์ตแบตฯต่อครั้งก็ตกราว 1454 บาท ซึ่งจะทำให้รถวิ่งได้ระยะทางราว 270-300 กิโลเมตร เปรียบเทียบกับการเติมน้ำมัน E20 ให้ราคาลิตรละ 25 บาท และรถยนต์วิ่งได้ระยะ 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร จะได้ระยะประมาณ 840 กิโลเมตร