วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ประเมินมูลค่า PRAKIT หลังลงทุนโรงพยาบาล

ประการแรก

บริษัท การแพทย์ สุขุมวิท 62 จำกัด เพิ่งเพิ่มทุนเมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมาเอง จาก 10 ล้านบาทเป็น 847.250 ล้านบาท และเงินลงทุน รวมทั้งหมด คือ ทั้งเงินกู้ และ เงินกู คือ 1800 ล้านบาท (เฉพาะต้นทุนทางการเงินก็ราว 40-50 ล้านบาทแล้ว)

ประการที่สอง
ผมประมาณการว่า คงเปิด โรงพยาบาลได้ราวอีก สองปี ข้างหน้า

ประการที่สาม
แถวนั้น มีโรงพยาบาลใกล้เคียงอยู่ด้วย

ประการที่สี่ Prakit ถือหุ้น บริษัท การแพทย์สุขุมวิท 62 จำกัด ซึ่งอยู่นอกตลาดที่ 35.41 %

ประการที่ห้า  รายได้จากการลงทุน บริษัท การแพทย์ สุขุมวิท 62 จำกัด จะอยู่ในรูป เงินปันผลรับ ถ้าเดาคราวๆว่า โรงพยาบาล สามารถทำ ROE ได้ราว 13 % และเงินปันผลจ่าย 50% ของกำไรสุทธิ ดังนั้น คำนวณคร่าวๆ ปี 61 (โรงพยาบาลน่าจะก่อสร้างเสร็จกลางปี 60 ) น่าจะได้เงินปันผล ประมาณ 20 ล้านบาท (847*0.13*0.50*0.3541) ในปีแรกที่ดำเนินงาน หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้บริหารแล้ว

แต่อย่าลืม Prakit ไม่ใช่ โรงพยาบาลนะ เพราะถือหุ้นน้อยกว่า 50% สมมุติให้ค่า P/E 16 เท่า ดังนั้น ราคาหุ้น Prakit ที่จะเพิ่มจาก ธุรกิจโรงพยาบาลก็ราว  20/60*16 = 5.34 บาท

นี่ผมมองได้อย่างนี้แหละครับ

การลงทุนมีความเสี่ยง เลือกเสี่ยงด้วยตัวคุณเองครับ

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ยังเสี่ยง

เริ่มเข้าไตรมาส 4/58 ตลาดหุ้นไทยดูเหมือนจะดี นักลงทุนต่างมีความหวัง เพราะเมื่อมองดูกราฟช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม ตลาดหุ้นวิ่งขึ้นมาสวยงามทีเดียว อีกทั้งดูเหมือนว่า นักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาลงทุนมากขึ้น  แต่มีข่าวที่ทำให้ต้องระมัดระวังอยู่สองข่าว

ข่าวแรก
หัวเรื่อง : ถ้าคุณคิดว่า ฟองสบู่ตลาดหุ้นของจีนน่ากลัว ลองดูพันธบัตร
อ้างอิง : http://www.bloomberg.com/news/articles/2015-10-08/if-you-thought-china-s-equity-bubble-was-scary-check-out-bonds

โดยสรุปคือ ณ เวลานี้ราคาพันธบัตรวิ่งขึ้นไปจนสุงที่สุดในรอบ หกปี ทีเดียว ตลาดพันธบัตรจีนขนาด 42.2 ล้านล้านหยวน ( 6.7 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ) อยู่ในภาวะเสี่ยงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นเมื่อสี่เดือนก่อน ทั้งนี้เป็นเพราะนักลงทุนหนีจากตลาดหุ้นไปลงทุนในตลาดพันธบัตรแทน และถ้าตลาดหุ้นฟื้นตัว เงินก็จะใหลกลับไปตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตรก็จะหดตัวลง

อีกสัญญาณเตือนคือ การกู้เงินของนักลงทุนเพิ่มขึ้น 83 % จากเดือนมกราคม มาอยู่ที่ 39 ล้านล้านหยวนในเดือนกันยายน


ข่าวที่สอง :ธนาคารกลางไม่สามารถช่วยโลกได้อีกแล้ว

http://www.reuters.com/article/2015/10/10/us-imf-cenbank-idUSKCN0S40VE20151010

รายงานโดยกลุ่ม 30 องค์กรระหว่างประเทศซึ่งนำโดยอดีตประธานธนาคารกลางยูโรป นาย ยอน คลาวด์ ไตรเชต เตือนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า อัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซนต์และการพิมพฺ์เงินไม่เพียงพอต่อการฟื้นตัวของการเติบโตของเศรษฐกิจและเสี่ยงต่อการเป็นมาตราการกึ่งถาวร

โดยบอกว่า สิ่งที่ธนาคารกลางทำเป็นเพียงการซื้อเวลา เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขวิกฤต